'ตราใบห่อ' โพสต์แจงอย่าเชื่อข่าวลวง ชี้ ขาขมยาเขียว ไม่มีฤทธิ์รักษาโควิด

ตราใบห่อ' โพสต์แจงอย่าเชื่อข่าวลวง

จากกรณีในโลกออนไลน์มีการเผยแพร่ข้อมูลเท็จเกี่ยวกับ การใช้ยาเขียวและยาขมในการรักษาโรคจากไวรัสโควิดได้ รวมถึงมีการพาดพิงถึงผลิตภัณฑ์ของตราใบห่อด้วยนั้น

ล่าสุด ห้างขายยาตราใบห่อ ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ห้างขายยาตราใบห่อ baihor ระบุข้อความว่าอย่าเชื่อข่าวลวง ยาขมยาเขียวไม่มีฤทธิ์ต่อไวรัสโควิดแอดมินมีเรื่องมาแจ้งด่วนค่ะช่วงนี้มีข่าวลือเผยแพร่ว่า…ยาเขียวและยาขมสามารถรักษาโรคจากไวรัสโควิดได้โควิและมีการพาดพิงมาถึงผลิตภัณฑ์ของตราใบห่อด้วยนั้นทาง “ตราใบห่อ” คาสิโนออนไลน์ ฟรีเครดิต ขอเรียนให้ทราบและย้ำอีกครั้งว่า ..ยาขมยาเขียวไม่มีฤทธิ์ต่อไวรัสโควิดไม่ว่าจะเป็นการป้องกันหรือรักษาสรรพคุณของยาขมและยาเขียวที่ถูกต้องคือยาขม :แก้ร้อนใน กระหายน้ำ แก้ไข้ตัวร้อน และเป็นยาระบายอ่อนๆยาเขียว :แก้ร้อนใน กระหายน้ำ เป็นไข้ ปวดหัวตัวร้อน ถอนพิษไข้ หรือออกหัดอิสุกอีใส.วิธีที่ป้องกันไวรัสโควิด-19 ที่ดีที่สุดคือล้างมือ อยู่ห่างกัน แยกชุดจานช้อนออกจากบ้านเท่าที่จำเป็น

หยุดเชื่อ หยุดส่งต่อข่าวลือ หยุดปั่นกระแสเพราะจะเป็นการทำลายความน่าเชื่อถือของสมุนไพรไทยช่วยกันให้ข้อมูลที่ถูกต้องเพื่อให้สมุนไพรไทยเป็นยารักษาโรคราคาถูกสำหรับคนไทยต่อไปค่ะขอบคุณค่ะ

---

จัดงบ 240 ล้านจัดหาวัคซีนโควิดให้ชาวปากเกร็ด

จากปัญหาการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่ยังมีตัวเลขผู้ติดเชื้อในประเทศอย่างต่อเนื่อง แม้รัฐบาลจะออกมาตรการเข้มข้น แต่ก็ยังไม่สามารถแก้ไขได้ เพราะปัญหาหลายๆอย่างที่คนไทยยังไม่ช่วยกันเต็มที่ รวมทั้งกลุ่มคนบางกลุ่มที่เห็นแก่ผลประโยชน์ปล่อยแรงงานต่างด้าวลักลอบเข้ามาในประเทศ ทำให้รัฐบาลต้องออกคำสั่งปิดสถานที่สุ่มเสี่ยงหลายแห่ง รวมทั้งเร่งจัดหาวัคซีน เพื่อนำมาฉีดให้กับคนไทย แต่คงต้องใช้งบประมาณนวนมากในการจัดซื้อ

วันที่ 10 มกราคม 2564 ที่บริเวณหัวถนนท่าน้ำปากเกร็ด และ ตลาดพิชัย จุดที่มีผู้ติดเชื้อในตลาด นายวิชัย บรรดาศักดิ์ นายกเทศมนตรีนครปากเกร็ด ได้ออกเยี่ยมเยียนให้กำลังใจพ่อค้า-แม่ค้า เพื่อสร้างขวัญกำลังใจ โดยบรรยากาศเป็นไปด้วยความเงียบเหงา มีผู้มาจับจ่ายซื้อของบางตา อีกทั้งตลาดสดพิชัยก็ยังปิดห้ามค้าขายจนถึงวันที่ 12 ม.ค.64 ตามคำสั่งผู้ว่าราชการจังหวัดนนทบุรี เนื่องจากพบผู้ติดเชื้อในตลาดแห่งนี้นายวิชัย กล่าวว่า หลังจากพบผู้ติดเชิ้อจำนวน 7 ราย ในตลาด เป็นผู้ประกอบการ 3 ราย แรงงานต่างด้าว 4 ราย เทศบาลนครปากเกร็ด ร่วมกับ อำเภอปากเกร็ด สสจ.จังหวัดและอำเภอ รวมทั้ง รพ.ปากเกร็ด ก็ร่วมกันตรวจสอบ ASIAX พร้อมมีคำสั่งจากจังหวัดให้ปิดตลาด เนื่องจากมีผู้ติดเชื้อไปรับอาหารทะเลเกี่ยวเนื่องจากจังหวัดสมุทรสาคร หลังปิดตลาดเทศบาลก็ได้ทำการพ่นยาฆ่าเชื้อเพื่อให้แน่ใจว่าปลอดภัย ตลาดพิชัยเป็นตลาดเอกชน ส่สนตลาดสดเทศบาลซึ่งอยู่ใกล้สำนักงานเทศบาลนครปากเกร็ด เรามีการคัดกรองผู้เข้ามาจับจ่ายซื้อของที่ตลาด ทั้งการตรวจวัดไข้ มีจุดล้างเจล แอลกอฮอลล์ ส่วนตลาดพิชัย ในช่วงเช้าที่ผ่านมามีการตรวจผู้ค้าและคนงาน ซึ่งผลจะออกในสองวัน หากไม่พบผู้ติดเชิ้อ เทศบาลก็จะเสนอทางจังหวัดใหเกับมาเปิดค้าขายได้ตามปกติ แต่ต้องเพิ่มมาตรการเข้มข้นมากกว่าเดิมเพื่อป้องกันไม่ให้กลับมาระบาดอีก

นายวิชัย กล่าวเพิ่มเติมว่า เทศบาลนครปากเกร็ด ส่งเจ้าหน้าที่ออกตรวจตลาดสด ตลาดนัด ในเขตเทศบาล จำนวน 16 ตลาด 453 ราย ผลตรวจเป็นลบหมด มีผู้ติดเชื้อเพียง 7 ราย คือที่ตลาดพิชัย "ตอนนี้ทางเทศบาลเองอยากช่วยรัฐบาล เทศบาลมีเงินสะสมกว่า 1,000 ล้านบาท เราเองอยากดูแลพี่น้องในเขตเทศบาล 180,000 กว่าคน จาก 5 ตำบล 36 หมู่บ้าน 66 ชุมชน ถ้าฉีดคนหนึ่ง 2 เข็ม หรือ 2 โดส ก็ต้องใช้เงิน 240 ล้านบาท จะสามารถช่วยเหลือทางรัฐบาลได้อีกแรง ถ้าเห็นว่าท้องถิ่นช่วยเหลือได้และสั่งการอนุมัติมา เทศบาลพร้อมจัดงบซื้อวัคซีนช่วยเหลือพี่น้องในอำเภอปากเกร็ดทันที ตนเองคิดว่าเทศบาลนครใหญ่ๆหลายแห่งในประเทศไทยทุกเทศบาล ก็พร้อมทุ่มงบประมาณจัดซื้อวัคซีนเพิ่อช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ของเขาไม่ใช่เพียงแค่เทศบาลนครปากเกร็ดเท่านั้น หากรัฐบาลเห็นว่าองค์กรปกครองท้องถิ่นสามารถข่วยเหลือได้และเห็นดีด้วย ตนเชื่อว่าทุกฝ่ายพร้อมช่วยเหลือรัฐบาลอย่างเต็มที่"