โควิด-19 สุดทรมาน แม้หายป่วยจากโรคไปแล้ว แต่อย่าเพิ่งวางใจ
- แจน แจนแจน
- Jan 11, 2021
- 1 min read
แม้หายป่วยจากโรคไปแล้ว แต่อย่าเพิ่งวางใจ
เข้าสู่ปีที่สองที่โลกรู้จัก ไวรัสอุบัติใหม่ อย่างโควิด-19 ที่ทำให้คนทั่วโลกล้มป่วยและเสียชีวิตมากมาย แต่คนที่หายป่วยก็มีไม่น้อย ทีนี้มีผลการศึกษาของจีน ระบุว่า หายป่วยโรคโควิด-19 ก็อย่าเพิ่งวางใจ
เว็บไซต์เซาท์ไชน่ามอร์นิ่งโพสต์ เผยแพร่ ผลการศึกษาของทางการจีน ที่พบข้อมูลที่น่าสนใจ เกี่ยวกับผู้ที่หายป่วยจากไวรัสโควิด-19 เมื่อหายป่วยแล้ว ส่วนใหญ่จะมีปัญหาสุขภาพในระยะยาว โดยนักวิจัยพบว่าร้อยละ 76 ของผู้ที่ออกจากโรงพยาบาลแห่งหนึ่งในอู่ฮั่น ซึ่งเป็นเมืองศูนย์กลางของการระบาดยังคงแสดงอาการอย่างน้อยหนึ่งอาการที่เกี่ยวข้องกับโรคในหกเดือนต่อมา
อาการที่พบนั้น แตกต่างกันไป มีทั้ง อาการสมองล้า และปัญหาการนอนไม่หลับ ซึ่งเกิดขึ้นในผู้ป่วยร้อยละ 63 และร้อยละ 26 ตามลำดับเป็นปัญหาที่พบบ่อยที่สุดนอกจากนี้ ยังมีอาการที่สร้างความประหลาดใจให้กับนักวิจัย เพราะพบว่าผู้ป่วยกว่าหนึ่งในสามมีอาการไตทำงานผิดปกติ ซึ่งนำไปสู่ปัญหาต่างๆ เช่น การเพิ่มของเสียในร่างกายในเลือดและเพิ่มความเสี่ยงต่อการเสื่อมสมรรถภาพทางเพศนี่ถือเป็นการศึกษาอาการของผู้ป่วยพิจารณาปรากฏการณ์ที่เรียกอย่างไม่เป็นทางการว่า “โควิดระยะยาว” และหน่วยงานด้านสุขภาพรวมถึงศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งสหรัฐอเมริกาได้รวบรวมรายชื่อปัญหาสุขภาพระยะยาวที่อาจเกิดขึ้น ข้อมูลนี้ ทำให้เกิดคำถามว่า ทำไมอาการติดเชื้อโควิด-19 ในบางรายรุนแรงกว่ารายอื่นๆ เพราะเมื่อพบไวรัสระบาดครั้งแรกที่เชื้อโควิด-19 ที่มีการรายงานออกมา ระบุได้เพียงแค่ว่า คาสิโนออนไลน์ ฟรีเครดิต เป็นโรคที่เกี่ยวกับทางเดินหายใจ หรือ ปอดบวม แต่พอผ่านไปร่วมเดือน อาการของผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 มีความแตกต่างกันอย่างมาก ตั้งแต่สูญเสียการได้กลิ่น มึนงง ไปจนถึงท้องร่วงต่เมื่อมีข้อมูลออกมาเรื่อยๆ ทำให้วงการแพทย์เข้าใจโรคโควิด-19 มากขึ้น ซึ่งไม่ใช่เเค่รักษาหาย ไม่พบเชื้อในร่างกาย ออกจากโรงพยาบาลได้ แต่ว่าแม้ผู้ป่วยหายจากอาการป่วยแล้ว ร่างกายก็ยังได้รับผลกระทบในระยะยาวต่อ เช่น ความวิตกกังวล ความอ่อนล้าเรื้อรัง หรือกระทั่งเนื้อปอดเสียหาย ซึ่งจากการศึกษาของแพทย์อังกฤษพบว่า ประมาณ 10% ของผู้ป่วยโควิด-19 ที่หายแล้ว จะยังคงมีอาการป่วยเรื้อรังต่อไปอีก 3 เดือนสถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศจีน ยังต้องจับตา เมื่อหน่วยงานสาธารณสุขของจีนแถลงว่า พบผู้ป่วยใหม่ติดเชื้อไวรัสโควิด-19จำนวน 69 รายเมื่อวันเสาร์ที่ 9 ที่ผ่านมา เทียบกับ 33 รายของวันศุกร์ที่ 8 ม.ค. นับเป็นตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่ที่เพิ่มขึ้นถึงสองเท่า ทำให้ทางการต้องประกาศใช้มาตรการเข้มข้น เพื่อควบคุมการแพร่ระบาด นั่นคือ ในกรุงปักกิ่งผู้โดยสารที่จะใช้บริการรถแท็กซี่ หรือบริการเรียกส่วนตัวพร้อมคนขับผ่านแอปพลิเคชั่นนั้น ก่อนขึ้นรถจะต้องสแกนโค้ดสุขภาพก่อน เพื่อยืนยันความปลอดภัย

ระเบียบใหม่ที่ออกมานี้เพราะเพิ่งจะมีการตรวจพบเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาว่าคนขับรถบริการเรียกรถส่วนตัวผ่านแอปพลิเคชั่น Didi ในกรุงปักกิ่ง เป็นผู้ติดเชื้อไวรัสแต่ไม่แสดงอาการ ทั้งนี้จากการเปิดเผยของปัง ซิงอู๋ เจ้าหน้าที่สาธารณสุขส่วนหรง จุน เจ้าหน้าที่ขนส่งกรุงปักกิ่งกล่าวว่า ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.เป็นต้นมา มีคนขับรถบริการเรียกรถส่วนตัวพร้อมคนขับผ่านแอปพลิเคชั่นDidi ถูกลงโทษปรับไป 1 ล้านหยวนแล้ว โทษฐานไม่สนับสนุนมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 เช่น การสวมหน้ากากอนามัย เป็นต้น ทั้งนี้จีนพบผู้ป่วยติดเชื้อสะสม 87,433 รายและเสียชีวิต 4,634 คน
สั่งกักตัวเจ้าหน้าที่รพ.กว่า 30 คน เสี่ยงติดเชื้อโควิดจากผู้ป่วยอุบลฯ
วันนี้( 10 ม.ค.64) ที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดอุบลราชธานี นายสฤษดิ์ วิฑูรย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี และประธานกรรมการโรคติดต่อจังหวัดแถลงผลการตรวจพบผู้ป่วยรายที่ 3 เป็นชายอายุ 62 ปี เป็นชาวบ้านตำบลสว่าง อ. สว่างวีระวงศ์ มีอาชีพขายผักตามตลาดนัดในอำเภอสว่างวีระวงศ์ มีอาการไอ หอบเหนื่อยมา 1 วัน และค่ำวันที่ 8 ม.ค. เข้ารักษาตัวเบื้องต้นที่โรงพยาบาล อำเภอสว่างวีระวงศ์ และถูกส่งต่อมาที่โรงพยาบาลวารินชำราบ
เช้าวันที่ 9 ม.ค. แพทย์สงสัยจะมีอาการป่วยติดเชื้อโควิด 19 จึงนำเข้าห้องแยกโรค พร้อมเก็บหาเชื้อส่งตรวจ กระทั่งดึกผลยืนยันพบเชื้อโควิด 19 และสายของวันนี้ได้ย้ายไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ เนื่องจากมีอายุมากมีโรคประจำตัวเป็นความดัน เบาหวาน ไตวายเรื้อรัง น้ำท่วมปอดต้องเข้ารับการตรวจกับแพทย์เป็นประจำ ซึ่งอาการล่าสุดช่วงเที่ยงวันนี้ ยังรู้สึกตัวดี หายใจ 14 ครั้งต่อนาที ไม่หอบ ออกซิเจนในเลือดเพิ่มขึ้นจาก ASIAX 90 เป็น 96 ต่อจากนี้ ต้องเฝ้าระวังจะมีอาการใดแทรกซ้อนหรือไม่
สำหรับประวัติเสี่ยงการติดเชื้อคือ ช่วงวันที่ 26 ธ.ค.2563 ถึงวันที่ 1 ม.ค.2564 ลูกชายและครอบครัว ซึ่งทำงานอยู่บริษัทรถยนต์ในอำเภอบางพลี จ.สมุทรปราการ เดินทางกลับมาเยี่ยมและพักที่บ้าน ระหว่างนั้นผู้ป่วยยังไปขายผักตามปกติ และวันที่ 7 ม.ค. ไปร่วมงานแต่งที่ตำบลโพธิ์ศรี อ.พิบูลมังสาหาร และเริ่มป่วยในวันที่ 8 ม.ค.ที่ผ่านมา

ทีมสอบสวนโรค จึงได้โทรศัพท์แจ้งบุตรชายและครอบครัวที่เดินทางมาเยี่ยมในช่วงปีใหม่ให้ไปรับการตรวจหาเชื้อในภูมิลำเนาที่อยู่ ส่วนภรรยากับคนในครอบครัว 4 คน เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลอำเภอวารินชำราบ 26 คน รวมทั้งผู้ป่วยที่มานอนรักษาตัวด้วยกัน 5 คน และเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลอำเภอสว่างวีระวงศ์ 10 คน ให้กักตัวดูอาการเป็นเวลา 14 วันผู้สัมผัสเสี่ยงต่ำตามไทม์ไลน์ของผู้ป่วยที่เดินทางไปขายผัก ร่วมทั้งงานแต่งรายงานตัวกับเจ้าหน้าที่สาธารณสุขและ อสม.ใกล้บ้านเพื่อเฝ้าสังเกตอาการในระยะนี้ด้วย
Comments